ขนมไทยโบราณหายาก
สกู๊ปสาระอาหาร

ขนมไทยโบราณหายาก ที่ต้องกินให้ได้สักครั้ง

ขนมไทยโบราณหายาก แนะนำ 5 อันดับ ขนมไทยที่หายาก คนรุ่นใหม่ไม่นิยม

ขนมไทยโบราณหายาก หากถามเด็กรุ่นใหม่ ถึงขนมไทยโบราณที่ชื่นชอบ หลายคนอาจจะนึกไม่ออก เพราะสมัยนี้ ขนมไทยโบราณอร่อย ๆ หาทานยากแล้ว แถมขนมบางอย่าง เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักด้วยซ้ำ 

ซึ่งขนมไทยโบราณ ส่วนใหญ่จะมี ความหมายที่ดี มีวิธีการทำ ที่พิถีพิถัน และมีรสชาติละมุน ซึ่งกว่าจะได้ ขนมไทยชั้นเลิศ ก็ต้องผ่าน กระบวนการมากมาย ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบ ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ ของขนมไทยโบราณ เลยก็ว่าได้

แต่ด้วยความละเอียดของขั้นตอนต่าง ๆ ทำให้ขนมไทยโบราณ ไม่เป็นที่นิยม และหาทานยากมาก ๆ

วันนี้เราได้นำ 5 อันดับ ของหวานไทยโบราณ มาฝากกันด้วย เรียกว่าเป็นขนมที่ ขึ้นชื่อมาก ๆ ในสมัยโบราณ น่าเสียดายที่สมัยนี้ แทบจะหาซื้อไม่ได้แล้ว

ขนมไทยโบราณหายาก ได้กินแล้วจะติดใจ 

ขนมไทยโบราณหายาก

อันดับที่ 5 ขนมเทียนสลัดงา ขนมอันนี้เป็น ขนมมงคลขึ้นชื่อ มีความหมายดี ๆ ซึ่งขนมอันนี้ สื่อความหมายถึง ความสว่างสไวรุ่งโรจน์ ซึ่งมาจากเทียน และความหมายถึง ความเนียวแน่นเป็นปึกแผ่น แทนความหมายด้วย ตัวข้าวเหนียวแก้ว และตัวงามีความหมายถึง ความเจริญงอกงาม นั่นเอง !

ขนมไทยชนิดนี้ เป็นขนมไทยขึ้นชื่อเพราะ ตัวเนื้อขนม มีความนุ่มลิ้น มีกลิ่นที่หอมเย้ายวน เพิ่มความรู้สึกดีด้วย ความกรุบกรอบจากงา อร่อยจนเกินห้ามใจจริง ๆ

ขนมเทียนสลัดงา ทำจากแป้งข้าวเหนียวดำ กวนให้เข้ากับกะทิและน้ำตาล สอดไส้ด้วยมะพร้าว โดยด้วยงาดำและงาขาว เป็นขนมไทยโบราณขึ้นชื่อ ที่หลายคนบอกว่า อร่อยมาก ๆ

ขนมไทยหาทานยาก ขั้นตอนการทำสุดละเมียดละไม

อันดับที่ 4 ขนมตะลุ่ม อีกหนึ่งเมนูขนมไทย ที่ปัจจุบัน หาทานได้ยาก โดยส่วนที่อยู่ ด้านล่างสุดของขนม จะทำมาจากแป้งข้าวจ้าว , แป้งเท้ายายม่อม , แป้งมันสำปะหลัง , น้ำปูนใส และหางกะทิ นำส่วนผสมต่าง ๆ ไปนึ่งจนสุก

ในส่วนด้านหน้าของขนม มีส่วนประกอบของ หัวกะทิ , ไข่ และน้ำตาล ผสมกับแป้งข้าวจ้าวเล็กน้อย

ตัวของขนมตะลุ่ม เมื่อได้รับประทาน จะได้เนื้อสัมผัส ของความนุ่มหนึบ มีรสชาติที่หวานมัน และกลิ่นหอมเย้ายวนมาก แต่ในปัจจุบัน หาทานไม่ได้แล้ว เพราะขนมตะลุ่ม มีขั้นตอนการทำที่ ละเมียดละไม ทำให้มีคนทำน้อย

ขนมไทยชาววัง รสชาติเป็นเลิศ ความหมายดี

ขนมไทยโบราณชาววัง 

อันดับที่ 3 ขนมโพรงแสม อีกหนึ่งขนมไทยโบราณชาววัง เป็นขนมที่นิยม ใช้ในงานแต่งงาน เพราะมีความหมาย ที่ดีเกี่ยวกับความรัก โบราณเปรียบขนมนี้ เสมือนเสาบ้านที่ คู่บ่าวสาวจะ อยู่ด้วยกันอย่าง ยั่งยืนตลอดไป

ขนมโพรงแสม มีลักษณะคล้ายกับ ขนมทองม้วน แต่จะแตกต่างที่ มีน้ำตาลเคลือบ มันอยู่รอบ ๆ ตัวของขนม เพิ่มรสชาติหวาน หอมกรอบอร่อย

ปัจจุบันขนมโพรงแสม ไม่เป็นที่นิยม เพราะการทำขนมทองม้วน มีขั้นตอนที่ง่ายกว่า และเป็นที่นิยมมากกว่า หลายคนไม่อยากเสียเวลา ในการทำน้ำตาลเคลือบ จึงทำให้ขนมชนิดนี้ เริ่มหายากแล้ว

แต่หลาย ๆ คนบอกว่า หากอยากจะสื่อความหมายดี ๆ ในงานแต่งงาน ก็ควรหาขนมโพรงแสมมาให้ได้ เพราะขนมสื่อความหมายถึง การปลูกรักให้มั่นคง นั่นเอง !

ขนมมงคลขึ้นชื่อ ที่ต้องหามาทานให้ได้

อันดับที่ 2 ขนมหม้อตาล ถือเป็นอีกหนึ่ง ขนมมงคล ที่นิยมใช้ ในพิธีแต่งงาน เพราะตัวถ้วยขนม ผสมจากป้งสาลี , ไข่แดง , และน้ำเย็น และต้องทำการกรุแป้ง ลงในพิมพ์หม้อตาล แล้วนำไปอบให้สุก

สำหรับไส้ของขนมนั้น นำน้ำไปผสม กับน้ำตาลทราย หลังจากนั้นเคี่ยวจนข้น แล้วตักใส่ถ้วยขนม แล้วหยดสีตาม ความต้องการของผู้ทำ

ขนมหม้อตาลมี เนื้อแป้งที่กรอบ เมื่อกัดพร้อมไส้ ก็จะได้รสชาติ ที่เข้ากันของน้ำตาล ที่หวานกำลังพอดี เรียกว่าเป็นเสน่ห์ ของขนมไทย ที่หาได้ยากจริง ๆ

เรียกว่าเป็นขนม อีกหนึ่งชนิด ที่มีกรรมวิธี ที่สลับซับซ้อน ทำให้คนไม่นิยม ในสมัยโบราณ คนโบราณเรียก ขนมชนิดนี้ว่า ขนมหม้อเงิน – หม้อทอง แต่ภายหลังก็เปลี่ยนชื่อ

ขนมไทยชาววัง

อันดับที่ 1 ขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมหากินยากที่สุด ในปัจจุบันหา แทบไม่ได้แล้ว อีกหนึ่งขนมไทยชาววังชั้นสูง ขนมชนิดนี้คิดค้นจาก การเลียนแบบเพลงไทย เพลงบุหลันลอยเลื่อน ซึ่งเป็นเพลงราชนิพนธ์ ในสมัยรัชกาลที่ 2

ขนมชนิดนี้ ตรงกลางทำจากไข่แดง ตัวเนื้อขนม ทำจากแป้งมัน และแป้งข้าวจ้าว ผสมกับน้ำดอกอัญชัน ทำให้สีสัน ดูน่ารับประทาน มากยิ่งขึ้นไปอีก

ขนมบุหลันดั้นเมฆ มีรสสัมผัสของแป้ง ที่เหนียวนุ่มละมุน สอดไส้ไข่แดง ที่หวานหอมเกินห้ามใจ ใครที่ได้รับประทาน ต้องติดอกติดใจ ฟินสุด ๆ ไปเลย น่าเสียดายที่ เด็กรุ่นใหม่ไม่เคย ได้ลิ้มรสขนมไทย ชั้นเลิศชนิดนี้

คนโบราณเชื่อว่า ใครที่สามารถ ทำขนมชนิดนี้ ออกมาได้อย่างสวยงาม แสดงว่าสิ่งที่ อธิษฐานเอาไว้ จะสำเร็จดังตั้งใจ

ต้องยอมรัยเลยว่า ขนมไทยโบราณ แต่ละชนิด มีการตั้งชื่อให้เป็นมงคล มีเอกลักษณ์ เหมือนกับวัฒนธรรมไทย ที่คนรุ่นหลัง ควรสืบสานให้ คงอยู่ต่อไป

น่าเสียดายที่ ในปัจจุบันมี ขนมต่างชาติมากมาย ที่ได้รับความนิยม จนคนรุ่นหลัง สนใจการทำ ขนมของชาติอื่น ๆ มากกว่าขนมไทยโบราณ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง เอกลักษณ์ของไทย ที่ควรสืบสานไว้ เพราะนอกจากขนมทั้ง 5 ชนิดที่เรานำมาฝาก ยังมีขนมไทยอีกมาก ที่เริ่มสูญหาย และไม่เป็นที่นิยมแล้ว

แต่ด้วยยุคสมัย ที่เปลี่ยนไปมาก ทำให้คนรุ่นหลัง ชอบกินเบเกอรี่ มากกว่าขนมไทย แถมเบเกอรี่ ยังมีขั้นตอน การทำที่ง่าย ไม่สลับซับซ้อนอีกด้วย ซึ่งคนยุคใหม่ ไม่ชอบอะไรที่ มีความละเอียด สลับซับซ้อน พวกเขาจึงเลือก ทำขนมต่างประเทศ มากกว่าขนมไทย นั่นเอง !